มีหลายคนถามเกี่ยวเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับโยคะมา ต้องขอบคุณมากมาย เคยมีตอบไปบ้างแล้ว แต่วันนี้ขอทยอยตอบเพิ่มเติมสัก 10 ข้อยอดฮิต ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะเริ่มต้น หากใครมีคำตอบที่ดีกว่านี้ มีคำถามที่สงสัย หรือมีอะไรที่อยากแนะนำเพิ่มเติม คอมเมนต์ได้เลยนะค่าา^ จะดีใจมากมาย
1. สนใจเรียน แต่ไม่เคยมีพื้นฐานเลย ตึง ตัวแข็งมาก แถวบ้านไม่มีครูสอนโยคะ อยากเริ่มโยคะทำอย่างไรดี ??
.
ตอนเริ่มเล่นโยคะใหม่ๆ ก็ไม่มีพื้นฐานอะไรเลย นอกจากอยากมีสุขภาพที่แข็งแรง และอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้เป็นคนที่ดีขึ้น คิดดีขึ้น พูดจาดีขึ้น มีจิตใจที่เข้มแข็งขึ้น
อยากเรียนรู้ โลกของภายในตัวเอง อยากทำให้ตัวเองดีขึ้นในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะสุขภาพกายและสุขภาพใจ
.
การฝึกโยคะ อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ทุกเรื่องของชีวิต แต่ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ที่คนที่อยากพัฒนาตัวเองในเรื่องคุณภาพชึวิต ไม่ควรพลาด
.
ซึ่งผู้เล่นใหม่อาจจะเริ่มฝึกในท่าไหว้พระอาทิตย์ก่อนก็ได้ค่ะ
.
ดวงอาทิตย์ เป็นตัวแทนของธาตุไฟในร่างกาย รวมทั้งการหายใจเข้า หัวใจ และพลังชีวิต
ส่วนดวงจันทร์เป็นตัวแทนของธาตุเย็น การหายใจออก ปอด และพลังงานแห่งความตาย
การควบคุมการหายใจจะทำให้เรายับยั้งขัดขวางพลังแห่งความตาย ทำให้ธาตุไฟหรืออัคนี และพลังชีวิตเพิ่มพูนขึ้น ดังนั้นการฝึกหายใจถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิต
.
ถ้าไม่มีพื้นฐานเลยก็ฝึก ท่าไหว้พระอาทิตย์ ท่ายืดเหยียด เบาๆ ฯลฯ หรือฝึกบริหารหายใจ ด้วยการนั่งสมาธิก่อนก็ได้ ตัวแข็งมาก ตึงมาก …นี่แหละเป็นสิ่งสำคัญว่าทำไมเราต้องฝึก ยุ้ยว่าร่างกายเราประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ การฝึกเพื่อให้ธาตุต่างๆ ได้ทำงาน และทำหน้าที่ของมันได้ดีขึ้น และเลือดลมได้เดินทางสะดวกขึ้นในร่างกายของเรา
.
แถวบ้านไม่มีครูโยคะ….ติดตามเพจ “โยคะมันดีนะ” ไปก่อนก็ได้ค่ะ 🙂 และลองฝึกในท่าเบาๆ พื้นฐาน เริ่มก้าวทีละนิด ก้าวเล็กๆ แต่ให้สม่ำเสมอ แล้วเราจะซึมซับ หากวันหนึ่งเมื่อร่างกายเรารู้ว่าสิ่งไหนทำแล้ว ร่างกายได้ประโยชน์ ร่างกายจะเสพติดสิ่งนั้น
2. มีบทสวดก่อนเล่นโยคะหรือเปล่า สำคัญไหม??
.
จริงๆ เรื่องบทสวด แล้วแต่คลาส แล้วแต่ครู
ส่วนมาก ครูจะให้เปล่งภาวนา “โอม” ในตอนเริ่มคลาส และตอนจบคลาส
แต่ก็มีครูบางท่าน ที่นำพาสวดบทยาว ในกรณีนี้อาจจะเป็นคลาสที่ส่วนตัว หรือ ครูบางท่าน
.
นี้เป็นบทสวดจากหนังสืออัษฎางโยคะ และมีครูบางท่านก็นำสวดก่อนเล่นคลาส
.
โอม
“วันเท คุรูณาม จรณารวินเท
สันทรศิตะ สวาตมะ สขาวโพเธ
นิห์ศเรยะเส ชางคลิกายมาเน
สัมสาระ หาลาหะละ โมหศาสนตไย
อาพาหุ ปุรุษาการัม
ศังกจักราสิ ธาริณัม
สหัสระ ศีรสัม ศวตัม
ประณมามิ ปตัญชลิม”
โอม
“ข้าพเจ้าขอนอบน้อมในปัทมบาทแห่งคุรุผู้สูงสุด
ผู้เฝ้าอบรมบ่มเพาะความรู้อันดีงาม และชี้นำหนทาง
สู่ความรู้ในความสุขอันยิ่งใหญ่ของตัวตนที่ตื่นขึ้น
ผู้เป็นแพทย์แห่งพงไพร ที่สามารถขจัด
พิษแห่งอวิชชาของการดำรงอยู่อันมีเหตุปัจจัย
ในร่างจำแลงเป็นงูศักดิ์สิทธิ์
กอปด้วยเศวตเศียรทั้งพันซึ่งเปล่งประกาย
ด้วยร่างมนุษย์ลงมาจนถึงไหล่
ถือดาบแห่งการแยกแยะ
กงล้อเพลิงแห่งกาละ
และหอยสังข์แห่งเสียงอันศักดิ์สิทธิ์
ข้าขอก้มกราบต่อท่านปราชญ์ปตัญชลี”
.
หลังจากสวดโอม หรือบทสวดมนตราแล้ว ครูก็อาจจะให้หลับตาเพื่อทำสมาธิสักครู่แล้วเริ่มทำการฝึก
แต่ว่ามีบทสวดหรือ ไม่มีบทสวด ก็คงแล้วแต่ครูฝึก
การสวดมนต์ก่อนเริ่มคลาส อาจจะเพื่อดึงสมาธิ สติ เราเพื่อให้มาจดจ่อสิ่งที่เราจะฝึก
ให้มาอยู่กับตัวเอง ให้เราได้ซึมซับประโยชน์ของสิ่งนั้นๆ
แต่ถ้าใครมีสติ และสมาธิอยู่แล้ว ก็ไม่ผิดอะไรที่จะเริ่มฝึกและยืดเหยียดได้เลย การสวดมนตรา หรือ ไม่สวด สิ่งนี้ก็คงจะขึ้นอยู่กับ เวลา สถานที่ และโอกาส
3.เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปวดเอวร้าวลงสะโพก เล่นโยคะแล้วหายไหม?
.
มีคนถามมาเยอะมาก ขออนุญาตเอาสิ่งที่ตัวเองเขียนไว้ก่อนหน้านี้ มาลงอีกครั้งน้าาา จริงๆ แล้วมีอวัยวะเยอะไปหมดในร่างกายเราซึ่งเป็นเรื่องสำคัญและเรื่องใกล้ตัว แต่เราไม่รู้จักมันเลย…
.
หมอนรองกระดูกคืออะไรเหรอ???
.
หมอนรองกระดูกคือ เนื้อเยื่อส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างกระดูกสันหลัง ทำหน้าที่เป็นข้อต่อในการขยับของกระดูกสันหลัง
และยังเป็นส่วนที่ใช้ในการรับแรงกระแทก เวลา ลุก นั่ง หรือกระโดด ฯลฯ หมอนรองกระดูกจะอยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อและอวัยะส่วนนี้ ไม่ได้อยู่เฉพาะที่ คอหรือเอว แต่จะนับแต่คอ อก เอว ถึงบริเวณก้นกบ
.
โดยปกติแล้วมนุษย์เราประกอบด้วยกระดูกสันหลังทั้งหมด 30 ชิ้น
เริ่มต้นตั้งแต่…
.
กระดูกสันหลังส่วนคอ 7 ชิ้น
กระดูกสันหลังส่วนกลาง 12 ชิ้น
และกระดูกสันหลังส่วนกลางหรือเอวอีก 5ชิ้น
แต่ละส่วนของกระดูกสันหลังบริเวณคอ อก และเอว 24 ชิ้นนี้ เชื่อมด้วยเนื้อเยื่อซึ่งเป็นแผ่นกลมเรียกว่า “หมอนรองกระดูก”
.
ด้านในหมอนรองกระดูกมีลักษณะนุ่มเหนียว ส่วนด้านนอกแข็ง
หมอนรองกระดูกช่วยให้หลังมีความยืดหยุ่นขณะเคลื่อนไหวและปกป้องกระดูกจากกิจกรรมที่ทำให้เกิดแรงกระแทก อย่างการเดินยกของ หรือบิดตัว
.
ส่วนกระดูกสันหลังชิ้นที่ 25-30 เชื่อมต่อยาวมาถึงบริเวณก้นกบ เป็นเส้นเดียวกัน ไม่มีหมอนรองกระดูกรองรับเหมือนกระดูกสันหลัง 24 ชิ้น
.
โรคกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท คือ ภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของโครงสร้างกระดูกสันหลังซึ่งเกิดจากการอายุมากขึ้น
และการเสื่อมสภภาพของร่างกาย หรือการยกของหนัก การสูบบุหรี่ ตลอดจนอุบัติเหตุกระแทกบริเวณกระดูกสันหลังบ่อยๆ
ทำให้กระดูกสันหลังเสื่อมเร็วขึ้น
.
การเสื่อมของกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดอาการทรุดตัว ดังนั้นร่างกายจะมีอาการตอบสนอง โดยการสร้างกระดูกงอกหรือหินปูนขึ้นมาเพื่อต้านการทรุดตัว ส่วนใหญ่กระดูกงอกที่ร่างกายสร้างขึ้นมาใหม่จะไม่มีอาการ แต่ว่าบางคนเกิดกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทและทำให้เกิดอาการปวดร้าวตามเส้นประสาทของร่างกายได้
.
สัญญาณเตือนว่าเราเป็นโรคหมอนรองกระดูก คือ ปวดคอร้าวลงแขน ปวดเฉพาะที่ ปวดหลังร้าวลงขา
ยืนนานก็ปวด นั่งนานก็ปวด ปวดเรื้อรัง รักษาไม่หาย ฯ
.
วิธีการรักษาส่วนใหญ่ที่หมอแนะนำ คือ งดสูบบุหรี่ หลีกเหลี่ยงการยกของหนักและออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อหลัง และหน้าท้องเพื่อให้กล้ามเนื้อรอบกระดูกแข็งแรง
4. เป็นภูมิแพ้หายจริงหรือเปล่า???
.
หลายคนที่เล่นโยคะอย่างสม่ำเสมอ และเคยเป็นบอกว่าหาย และสุขภาพดีขึ้น
บางครั้งยุ้ยก็คิดนะค่ะว่า…
เกิดเป็นคนยังไงก็ต้องตาย ต่อไม่ให้เป็นภูมิแพ้ยังไงก็ต้องตายอยู่ดี
.
แล้วไม่มียาชนิดไหนที่จะทำไม่ให้เราไม่ตายได้
และร่างกายของเรา ตับ ไต ไส้ พุง ฯลฯ
อวัยวะข้างในร่างกายเรา มันมีการทำงาน
และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
.
เราห้ามความเจ็บป่วยกับร่างกายเราไม่ได้
แตถ้าเราฝึกให้มีจิตใจที่แข็งแรงแล้ว
จิตใจที่แข็งแรง และเข้มแข็ง
จะทำให้อาการเจ็บป่วย หายได้เร็วขึ้น
หรือมันอาจจะช่วยให้เราเข้าใจ
และเห็นความจริง การเปลี่ยนแปลงของร่างกายข้างในที่เกิดขึ้นได้
และนั่นเราจะหาทางแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น
.
การฝึกโยคะจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเราได้ 100 % ถ้าเราฝึกอย่างสม่ำเสมอ และนี่มันอาจจะเป็นยาวัคซีนที่ดีที่สุดก็เป็นได้
ยุ้ยได้แนะนำ 9 ชุดวิธีท่าโยคะรักษาโรคภูมิแพ้ ซึ่งเป็นท่าพื้นฐานและทำไม่อยาก ฝึกบ่อยๆ ฝึกทุกๆ วัน ได้ผลอย่างไรอย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะค่ะ
ดูท่าเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งนี้เลยน้าาา
.
และอยากจะบอกว่า โรคที่น่ากลัวไม่ใช่โรคภูมิแพ้ แต่เป็นโรคแพ้ใจตัวเองต่างหากที่น่ากลัวที่สุด
5. แฮมสตริงตึงมาก ทำอย่างไรดี???
.
จริงๆ เรื่องของ แฮมสตริงของอธิบายคร่าวๆ ไปแล้ว การตึงของแฮมสตริง
.
3 สาเหตุหลักๆที่ทำให้บาดเจ็บของ Hamstring ( เอ็นร้อยหวาย หรือ การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อต้นขา)
.
1. การใช้กล้ามเนื้อมากเกินไปเป็นสาเหตุหลักของการอักเสบของกล้ามเนื้อ Hamstring ซึ่งเกิดจากขณะที่กล้ามเนื้อยืดมากเกินปกติแบบเฉียบพลัน
2. การอักเสบของกล้ามเนื้อ Hamstring เกิดขึ้นขณะที่กล้ามเนื้อถูกทำให้ยืดในขณะที่มันกำลังหดตัว หมายถึงว่าเราฝึนใช้กล้ามเนื้อในขณะ่ที่มันยังไม่พร้อมนั่นเอง
3. ในขณะที่ออกตัวแบบกระชาก กล้ามเนื้อ Hamstring การฉีกขาดลฃบางส่วนหรือการฉีกขาดทั้งหมด การอักเสบของกล้ามเนื้อสามารถแบ่งเป็นสามระดับ อับแรกคืออาจจะเป็นการบาดเจ็บเล็กน้อยและหายง่าย ส่วนการบาดเจ็บระดับร้ายแรงคือ กล้ามเนื้อเยื่อจะฉีกขาดหมดและใช้เวลาในการรักษาประมาณ หนึ่งเดือน
6. ถ้าเกิดอักเสบขึ้นแล้ว จะแก้ไขได้ยังไงบ้าง หยุดเล่น ระยะนึง(อาการเจ็บยังคงมี) แล้วเล่นต่อแบบเบาๆ หรือควรหยุดเล่นเลยจนกว่าจะหาย???
.”สิ่งต่างๆ ในโลกนี้ที่เราไม่สามารถควบคุมได้
จะสอนให้เรารู้จักการปล่อยวาง”
.
คำถามนี้ขอสารภาพว่า ไม่รู้ และไม่สามารถตัดสินใจแทนคนที่บาดเจ็บได้ เพราะว่า ไม่รู้ว่า บาดเจ็บ ในระดับไหน อาการเป็นอย่างไรบ้าง แต่ว่าอยากจะแนะนำว่าอยากให้ฝึกเบาๆ หากอาการไม่หนักมาก
.
ท่าต่างๆ ของโยคะเช่น ท่าสามเหลี่ยม ท่าเปิดไหล่ ฯลฯ
การใช้กำแพงเพื่อช่วยจัดระเบียบร่างกายก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ทำท่าต่างๆ ได้ดีและลึกขึ้นนะค่ะ (วิธียุ้ยนะค่ะ ^^)
.
แต่บางท่าไม่แนะนำสำหรับผู้ฝึกใหม่ๆ เพราะว่าผู้ฝึกใหม่
ร่างกายอาจยังมีกล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรงพอ และร่างกายยังไม่มีความยืดหยุ่นเท่าที่ควร
.
การฝืนทำท่าที่ร่างกายยังไม่พร้อม อาจจะเป็นการทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่ายๆ ในการฝึกโยคะแบบดั้งเดิมจะแนะนำให้ปรับแนวในท่าและความสงบนิ่งที่จิต ยอมรับอย่างที่ร่างกายเป็น แล้วค่อยๆ ฝึก
.
กล่าวกันว่าร่างกายเรามีเหตุผลที่ดีพอเมื่อมีการปรับแนวที่ไม่ถูกต้อง หรือเกิดความรู้สึกไม่สบายขึ้น การพยายามที่จะฝืนร่างกายเราอาจจะก่อให้เกิดผลเสียยิ่งกว่าปัญหาที่มีอยู่เดิม
.
ในบางครั้งการฝึกฝน อาจทำให้เกิดความเจ็บปวด ความรู้สึกไม่สบาย ฯลฯ ให้ค่อยๆ ฝึก ร่างกายจะเยียวยาสิ่งที่สามารถเยียวยาได้ อย่างไรก็ตามหากปราศจากการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง และตระหนักรู้ในร่างกายของเรา ความสามารถที่จะถูกเปลี่ยนแปลงก็จะถูกจำกัด
.
ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเราจะเกิดการยอมรับ แต่ก็จะเป็นไปเท่าที่เหมาะสมเท่านั้น การพัฒนาของร่างกายจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อร่างกายและจิตใจเริ่มสื่อสารกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
7. ครูสอนไม่ดีเลย เลิกเรียนดีไหม??
คิดว่า หลายคนที่มีคำถามนี้ มีคำตอบของตัวเองอยู่ในใจอยู่แล้ว เรื่องครูสอนดี หรือไม่ดี นั้นผู้เรียนเท่านั้นที่สามารถเลือกคำตอบที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง
.
สำหรับยุ้ยแล้วไม่มีสิทธิ์ และไม่มีอำนาจจะไปตัดสินใจว่าใครควรจะเรียนกับครูคนไหนได้
.
ยุ้ยเชื่อว่า ในบางครั้งครูก็คือนักเรียน
และนักเรียนก็คือครู
โลกนี้เราจำเป็นต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ทุกคนต่างมีบทบาทและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ
ตราบใดที่เรายังเป็นมนุษย์เดินดินธรรมดา
ทุกคนสามารถทำผิดพลาดได้เสมอ
และขณะเดียวกัน
ทุกคนก็มีโอกาสที่จะได้รับการอภัยในความผิดพลาดนั้น
.
แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่นักเรียนและครูที่ควรจะมีเหมือนกัน คือ อย่าหยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
8. เวลาทำท่าโยคะ มีลมออกช่องคลอด ผิดปกติไหม?
.
ลมเป็นอาหารอย่างละเอียด ลมคืออาหารที่ดีที่สุด ร่างกายเราอยู่ได้ด้วยลม ??
ฉะนั้นการผายลม 🙂 หรือ ลมออกทางช่องคลอด ถือไม่ผิดปกติค่ะ
.
“วายุบอกถึงพลังชีวิตที่มีลักษณะเป็นลมของร่างกาย
.
นั่นคือโดยธรรมชาติของร่างกายเรานั้น
อยู่ในสภาวะที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
.
ธาตุดินคือพลังที่มุ่งสู่ภายในและหดตัวเพื่อให้สิ่งต่างๆ อยู่ด้วยกัน
ธาตุน้ำคือพลังที่ไหลสู่เบื้องล่าง และกำจัดสิ่งที่ไม่ต้องการออกไป
ธาตุไฟ คือ พลังที่พุ่งสู่เบื้องบน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเผาพลาญทุกสิ่งทุกอย่างทีขวางทาง
ธาตุลม คือแรงที่กระจายออกสู่ด้านข้าง ซึ่งพยายามเข้าไปในทุกสิ่งที่มันสัมผัส
.
ส่วนอากาศธาตุปราศจากรูปและแผ่กระจายอยู่ในทุกๆ สิ่ง”
9. ความสมดุลจากการเล่นโยคะคืออะไร???
.
ความสมดุลในชีวิต คือ การที่เราได้ใช้ร่างกาย จิตใจ และจิตวิณญาณ ความคิด ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันเพราะหลายๆครั้ง…
เราใช้ความคิดที่เยอะไป แต่ขาดการบริหารร่างกาย
บางครั้ง
เราบริหารร่างกาย แต่ใช้ชีวิตอย่างคนไม่มีความคิด
ดังนั้น
เราถึงต้องหยุดความคิด พักร่างกาย
และนั่นหมายถึงการทำให้เรากลับมามีพลังใจในการใช้ชีวิตอีกครั้ง
.
การฝึกโยคะ คือการฝึก สามสิ่ง กาย ใจ และจิตวิญญาณ ให้มีการพัฒนาการที่ดีขึ้นและสมดุลขึ้น
.
มนุษย์ เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
มนุษย์ ก็ถือว่า เป็นสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ
และสักวันหนึ่ง ร่างกายเราก็จะมีการแตกดับ และย่อยสลาย
เพื่อบำรุงพื้นดิน บนโลกใบนี้
เถ่ากระดูก ที่บางครั้งเราเอาไปโยนลงน้ำ
อาจจะเป็นอาหารที่ดีสำหรับปลา หรือสัตว์ใต้น้ำ
ปลาตัวนั้นใครสักคนก็อาจจะเอาปลามาเป็นอาหาร
ปฎิเสธไม่ได้ว่า…คนๆ นั้นได้กินปลา ….ปลาที่เคยกินกระดูกของใครคนใดคนหนึ่งไป
.
เราอาศัยอาหารในการดำรงชีพ
เราต้องการแสงแดดอย่างเช่นต้นไม้
เพื่อไปสร้างวิตามินดีเพื่อให้ร่างกาย
เราต้องการน้ำเพื่อให้ไปล่อเลี้ยงเรารู้สึกชุ่มชื่น
เราต้องการลมเพื่อเราสามารถมีออกซิเจน
ในการหายใจเพื่อการมีชีวิตอยู่
ร่างกายเราต้องการความร้อน
หรือมีธาตุไฟ เพื่อไปช่วยเรื่องขับถ่าย เผาพลาญไขมัน
ขับของเสีย สร้างความสมดุล ฯลฯ
จิตใจของเราต้องการ อาหารคือ คำพูด ความรู้สึก นึกคิด ที่ดี เพื่อมาล่อเลี้ยงจิตใจให้แข็งแรง
.
ชีวิตคนเราก็เหมือนต้นไม้ ที่ต้องการสารอาหารดีๆ มาล่อเลี้ยง สังเกตุว่า ถ้าร่างกายเรา
ได้รับน้ำเกินไป ร่างกายก็จะมีความผิดปกติ
ได้รับแสงแดด อาบแดดมากเกินไป ก็มีผลทำให้เป็นมะเร็ง ฯ เป็นโรคต่างๆได้
.
การฝึกโยคะ เพื่อ บริหารธาตุทั้งสี่ ของร่างกายให้เกิดความสมดุล ให้มีการรับ และขับออก ไหลเวียนได้สะดวกและคล่องขึ้น คือ การบริหารกาย การบริจิตใจ และการฝึกสมาธิ
.
การฝึกสมาธิ เพื่อให้เรามีสติ
เพื่อเราได้เรียนรู้เท่าทันความคิด
และเรียนรู้ อยู่ปัจจุบันได้
เป็นต้น
.
และชีวิตที่สมดุล ก็คือ ที่เรารู้จักการใช้ชีวิต การฝึการใช้ชีวิต และเบียดเบียนตัวเองและคนอื่น สิ่งรอบข้างให้น้อยที่สุด
10.อายุเยอะแล้ว เริ่มอย่างไรดี แล้วเล่นโยคะได้ไหม???
.
“ชิวิตคนเราถ้าคิดได้เมื่อไร่
ก็เกิดใหม่ได้ทั้งนั้น ไม่สำคัญว่าอายุเท่าไร่
ดังนั้น ไม่มีคำว่าสายที่จะเริ่มสิ่งใหม่ๆ”
เมืองไทยเป็นสังคม ที่ค่อนข้างจะกดดันในเรื่องอายุ
เรามักจะเอาอายุเป็นที่ตั้ง ที่จะให้ลอง หรือควรจะทำ และไม่ทำอะไร
.
เราถูกสอนมา ว่า เป็นเด็กต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่
ให้เคารพคนที่มีอายุเยอะกว่าเสมอ
เป็นเด็ก ไม่ควรแสดงความคิดเห็นเวลาผู้ใหญ่คุยกัน
ความคิดเห็นของผู้ใหญ่มักจะถูกต้องเสมอ
เด็กคือผู้น้อย ต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่ ฯลฯ
…
แต่ว่าเราลืม สอนอะไรที่มันลึกไปกว่านั้น
สอนให้เห็นถึงความจริง ว่า อายุไม่ได้เป็นตัวชี้วัดเรื่องความเป็นผู้ใหญ่เสมอไป เราควรจะสอน ว่า เด็กหรือผู้ใหญ่ มีโอกาสที่จะทำผิดพลาดได้เหมือนกัน
แต่ชีวิตคือ การเรียนรู้ ที่ไม่มีสิ้นสุด
คนที่ผิดพลาด ได้เร็ว ก็มีโอกาสที่จะเรียนรู้ได้เร็วเช่นกัน
.
อย่ายึดติดกับอายุ แต่จงเรียนรู้กับความผิดพลาด และปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ เราไม่สามารถย้อนเวลา ไปได้ อายุก็เช่นกัน แต่เราให้โอกาสที่จะเรียนรู้ ให้โอกาสชีวิตเราได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ได้เสมอ
.
โยคะเหมาะกับทุกเพศทุกวัย หากอายุเยอะแล้วไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี ให้ลองฝึกหายใจเข้า หายใจออก
สังเกตลมหายใจของตัวเองก็พอ อยู่กับตัวเองให้เป็น
.
เพราะชีวิต ไม่มีใครตายแทนใครได้
ไม่มีใครเจ็บป่วยแทนใครได้
ไม่มีใครแก่ แทนใครได้
มาคนเดียว ตอนตายเราต้องตายคนเดียวเช่นกัน…
0 Comments